เมื่อดวงตา + เทคโนโลยีสมาร์ทโฟน = อาสาสมัครแนวใหม่ Micro-Volunteer ช่วยเหลือคนตาบอดแบบทันใจ

เขียนให้กับ : creativemove.com

เขียนเมื่อ :10/9/2013

(ต้นฉบับ)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่จะเป็นพลเมืองอาสาสมัครได้นั้น นอกจากใจที่พร้อมต้องการช่วยเหลือสังคมอย่างแน่วแน่แล้ว เรายังต้องการการเสียสละด้านเวลาเพื่อออกมาทำงานอาสาสมัครได้อย่างที่ตัวเองต้องการ แต่เอาเข้าจริงๆ หลายคนปฏิเสธการทำกิจกรรมอาสาสมัครเพราะเราไม่สามารถสละเวลาอันมีค่าของเราได้มากมายนัก ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากงานประจำ หรือภาระหน้าที่ต่างๆที่อยู่ต่อหน้าและสำคัญมากกว่า เราจึงมักจะปฏิเสธหรือผลัดการเป็นอาสาสมัครออกไปก่อน ด้วยสาเหตุหลักคือ “ไม่ว่าง”

โลกในยุคอินเตอร์เน็ตสมัยนี้สามารถทำให้เราเข้าถึงทุกอย่างได้ตลอดเวลา เพราะยุคนี้มีอะไรให้ทำมากมาย เราจึงดูเหมือนยุ่งได้ตลอดเวลา แต่เอาเข้าจริงๆ หากลองสังเกตุดีๆ ไม่ใช่ว่า “ไม่ว่าง” แค่ “ว่างเป็นช่วงๆ” เท่านั้นเอง เราใช้เวลาระหว่างวันอย่างละนิดละหน่อยเพื่อเล่นเฟสบุ๊ค เล่นไลน์กับเพื่อน หรือแม้กระทั่งเล่นเกมส์ candy crush บนมือถือ แค่ไม่ได้ว่างทั้งวันในการที่จะเดินทางออกไปทำงานอาสาสมัครสักอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง

ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดที่จะสามารถเข้าถึงคนสมัยนี้ได้ก็คือ ความ convenience หรือก็คือความสะดวกสบาย เข้าถึงได้ง่าย ช่วยอำนวยความสะดวก คนถึงจะยอมหันมาสนใจ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องมาร์เก็ตติ้งขายของเท่านั้น เรื่องอาสาสมัครก็เช่นกัน อย่างแคมเปญนี้ที่ค่ายมือถือหนึ่งที่สิงคโปร์เขาจับจุดพฤติกรรมของคนสมัยนี้ออก เขารู้ว่าคนเราเวลาให้ที่ให้เกี่ยวกับอาสาสมัครมีน้อย แต่ถ้าเราสามารถนำเอาเวลาที่น้อยๆของแต่ละคนมารวมกันแบบที่เรียกว่า crowdsourcing มาผสานกับเทคโนโลยีมือถือ ก็สามารถที่จะช่วยสังคมได้สักอย่างใดอย่างหนึ่ง

ค่ายมือถือนี้เลือกใช้เทคโนโลยีมือถือมาเปลี่ยนวิธีการช่วยเหลือคนตาบอดในสังคม

แคมเปญนี้มีชื่อว่า “THIRD EYE” ด้วยแนวคิดง่ายๆว่าถ้าประเทศสิงคโปร์มีคนใช้มือถืออยู่ 7.4 ล้านคน ถ้าเราขอคนเหล่านั้นแค่เพียง 1% สละเวลากันคนละ 10 วินาทีต่อวัน เราจะเหมือนได้คนมาช่วยอาสาสมัครถึงประมาณ 200 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ไอเดียของแคมเปญนี้คือแอพฯบนมือถือ ที่ทำให้เราพูดคุยกันคนตาบอดได้ โดยการสื่อสารคล้ายๆ LINE แต่หน้าที่ของมันคือ เราจะช่วยเป็นดวงตาที่สามให้กับคนตาบอดเมื่อคนตาบอดต้องการความช่วยเหลือ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคนตาบอดอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วไม่แน่ใจว่าผลไม้ที่จะเลือกซื้อนั้นสดหรือไม่ เขาก็เพียงถ่ายภาพและส่งเข้าระบบกลางที่เต็มไปด้วยอาสาสมัครเฉพาะกิจ ไม่ว่าเราจะทำงานอยู่หรือมีเวลาว่างเพียงเล็กน้อย เราก็สามารถใช้ดวงตาทีปรกติกับเวลาเพียงเล็กน้อย พิมพ์ตอบกลับไปได้ ระบบจะแปลง text ให้กลายเป็นเสียงพูดตอบกลับคนตาบอดในทันที เพียงเท่านี้เราก็สามารถช่วยเหลือสังคมได้ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ลองมาดูวีดีโอนี้กัน

จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยี + ไอเดียที่ตอบโจทย์ เราก็สามารถช่วยสร้างสรรค์โลกใบนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ไม่ว่าโลกจะหมุนเร็วไปเท่าใด เราจะยุ่งมากขึ้นเท่าใด เราก็ยังมีหัวใจเป็นมนุษย์เหมือนเดิม ขอให้วิธีการสามารถปรับตัวตามได้ก็เท่านั้นเอง อย่างแคมเปญนี้ที่ใช้แอพฯมือถือเปลี่ยนบริบทการทำงานของ Volunteer ให้กลายเป็นบริบทใหม่แบบ Micro-Volunteer ช่วยเหลือได้ทันใจแบบฟาสต์ฟู้ดเซอร์วิส